ภูมิหลัง ของ ฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 74

ก่อนหน้านี้ ฟีฟ่าจะจัดการประชุมฟีฟ่าคองเกรสในประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการใหญ่ของปีนั้น ๆ อยู่แล้ว แต่ในการประชุมฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 73 ที่เมืองคิกาลี ประเทศรวันดา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นการประชุมครั้งแรกที่ฟีฟ่าเปิดโอกาสให้แต่ละประเทศสมาชิกสามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฟีฟ่าคองเกรสครั้งถัด ๆ ไปได้ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ในขณะนั้น ที่นำทีมงานเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ จึงได้ยื่นเสนอชื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมฟีฟ่าคองเกรสในครั้งถัดไป[1]

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566 สภาฟีฟ่าได้อนุมัติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 74 อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งกำหนดวันประชุมไว้เป็นวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567[2]

ด้านหน้าของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สถานที่จัดประชุมหลักในฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 74 คือศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเคยใช้จัดการประชุมเอเปค 2022 เมื่อปี พ.ศ. 2565 โดยเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังได้นำจันนี อินฟันตีโน ประธานฟีฟ่า เข้าเยี่ยมชมและตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว[1]

การประชุมฟีฟ่าคองเกรสครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 5 ของทวีปเอเชีย ต่อจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศกาตาร์ และประเทศออสเตรเลีย[3]